The Flying Moose Food 5 เคล็ดลับในการดื่มสมูทตี้เพื่อทดแทนอาหารมื้อปกติ

5 เคล็ดลับในการดื่มสมูทตี้เพื่อทดแทนอาหารมื้อปกติ


Fruit Smoothie

Fruit Smoothie

มีความแตกต่างกันอยู่บ้างระหว่างสมูทตี้ที่ดื่มเป็นอาหารว่างกับสมูทตี้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเพื่อดื่มแทนอาหารมื้อปกติไม่ว่าจะกินแทนอาหารเช้า อาหารเที่ยง หรืออาหารเย็นเป็นบางครั้ง การปรับเปลี่ยนสูตรสมูทตี้ให้สามารถทดแทนอาหารมื้อปกตินั้น คุณจะต้องเพิ่มวัตถุดิบทั้ง 5 ชนิดนี้ลงในสูตรสมูทตี้ทั่วไปด้วย

1. เพิ่มเนยถั่ว

การเพิ่มเนยถั่ว เช่น เนยถั่วอัลมอลด์หรือเนยถั่วพีแคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโปรตีนให้กับสูตรสมูทตี้ของคุณ จำนวนโปรตีนที่มากขึ้นแสดงว่าท้องอิ่มได้นานขึ้น

ตัวอย่างของสูตรสมูตตี้ที่เพิ่มโปรตีนยอดนิยมประกอบด้วยส่วนผสมหลักหรือวัตถุดิบประกอบไปด้วย กล้วย โยเกิร์ตธรรมดา เนยถั่วอัลมอลด์ น้ำผึ้ง และน้ำแข็งก้อน จากนั้นก็ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน

2. เพิ่มเมล็ดเจีย

เมล็ดเจียหรือมล็ดเชียจะขยายตัวในน้ำหรือของเหลวจนเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเจล เมล็ดเจียช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับเนื้อสมูทตี้พร้อมให้จำนวนเส้นใยอาหารสูง ซึ่งทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณทำงานช้าลง นั่นคือ เมื่อกระเพราะย่อยช้าลงคุณก็รู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น

วิธีใส่เมล็ดเจียเพิ่มลงไปในสูตรสมูทตี้ปกตินั้นจะต้องแช่เมล็ดเจียทิ้งไว้ในน้ำสะอาดประมาณ 10 นาที เพื่อให้เมล็ดแตกตัวจนกลายเป็นเจลเสียก่อน แล้วนำไปใส่รวมกับวัตถุดิบหรือส่วนผสมอื่นในเครื่องปั่น วิธีนี้ช่วยให้คุณปั่นสมูทตี้เป็นเนื้อเดียวกันได้ง่ายขึ้น

3. เพิ่มเต้าหู้

เต้าหู้เป็นอาหารรสชาติจืดแต่ให้โปรตีนสูง หากคุณต้องการรสชาติดีด้วยก็เปลี่ยนไปใส่เต้าหู้ครัมเบิ้ลแทนเต้าหู้แบบธรรมดา การเพิ่มเต้าหู้ลงไปในสมูทตี้เป็นการเพิ่มโปรตีนให้มากขึ้น จำนวนโปรตีนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ท้องรู้สึกอิ่มนานขึ้น

ช่วงแรกๆ ทดลองเพิ่มปริมาณเต้าหู้ลงไปทีละนิดจนกระทั่งรสชาติดีๆ ของสมูทตี้เริ่มเปลี่ยนไปจึงค่อยหยุดใส่ เมื่อลิ้นของคุณคุ้นเคยกับรสชาติจืดของเต้าหู้แล้วครั้งต่อไปก็เพิ่มปริมาณขึ้นอีกจนได้ปริมาณโปรตีนเทียบเท่ากับอาหารมื้อปกติ

ด้วยรสชาติที่ดีของเต้าหู้แบบคลัมเบิ้ลหรือใช้เต้าหู้ทอดก็ได้ซึ่งรสชาติค่อนจะคล้ายกับเนยถั่ว แต่ถ้าใส่เพิ่มมากเกินไปเนื้อของสมูทตี้จะมีลักษณะเหนียวข้นมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรทดลองเพิ่มเต้าหู้แบบเคลัมเบิ้ลลงไปทีละนิดเพื่อไม่ให้เนื้อสมูทตี้หยาบหรือข้นจนเกินไป

4.เพิ่มโยเกิร์ต

หากเพิ่มส่วนผสมของโยเกิร์ตธรรมดามากขึ้นในสูตรสมูทตี้ ก็แสดงว่าคุณได้เพิ่มปริมาณไขมันธรรมชาติให้กับสมูทตี้ด้วย เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้นจากจำนวนโปรตีนและไขมันนมของโยเกิร์ต

แต่คุณต้องแน่ใจแล้วว่าโยเกิร์ตกล่องนั้นไม่มีน้ำตาลมากเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพไปในที่สุด ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายที่คุณต้องการ

โยเกิร์ตธรรมดาเป็นวัตถุดิบพื้นฐานหรือส่วนผสมหลักของสูตรสมูทตี้เกือบทุกสูตร ดังนั้น การใส่โยเกิร์ตเพิ่มมากขึ้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเพิ่มคุณค่าอาหารให้กับสมูทตี้

5. เพิ่มไขมันจากธรรมชาติ

การดื่มน้ำผักผลไม้ปั่นหรือสมูทตี้ที่มีส่วนผสมของไขมันธรรมชาติย่อมส่งผลดีต่อร่างกายคุณโดยตรง

วิธีง่ายๆ ในการใส่ไขมันธรรมชาติลงไปในเครื่องปั่นก็เช่น การเพิ่มน้ำมันมะพร้าวลงไปในสูตรสมูตี้ของคุณ ไขมันในน้ำมันมะพร้าวให้ผลดีต่อสุขภาพมากกว่าไขมันธรรมชาติชนิดอื่น ผู้เชี่ยวชาญอาหารหลายคนแนะนำว่าให้เปลี่ยนไปใส่ผลอะโวคาโดสดแทนน้ำมันธรรมชาติก็ได้เพราะเนื้ออะโวคาโดจะช่วยเพิ่มสีสันและความหวานมันมากขึ้นอีก

การประยุกต์ใช้เคล็ดลับ 5 ข้อนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำจะช่วยให้สูตรสมูทตี้ของคุณก้าวข้ามจากเครื่องดื่มผักผลไม้ธรรมดามาเป็นอาหารมื้อปกติได้ทันที มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พร้อมทั้งอิ่มท้องได้นานขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการทดลองเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้ลงไปทีละนิดแล้วลองชิมดูว่ารสชาติเปลี่ยไปหรือไม่ หากยังอร่อยอยู่ก็เพิ่มจำนวนวัตถุดิบเหล่านี้ต่อไปจนรสชาติดีๆ หายไปจึงหยุดใส่

จากความรู้ในบทความนี้คุณสามารถประยุกต์สูตรสมูทตี้ทั่วไปให้ทดแทนอาหารมื้อปกติได้ โดยเฉพาะอาหารค่ำที่ร่างกายไม่ต้องการปริมาณอาหารมากหรือต้องการแคลอรี่สูง สมูทตี้จะช่วยตอบโจทย์เรื่องอาหารค่ำได้เป็นอย่างดี สะดวกสบาย ดื่มแล้วสดชื่น และย่นลดเวลาเข้าครัวได้มากเลยทีเดียว